Top

FB Live ใช้อย่างไรให้แบรนด์ปัง!

FB Live ใช้อย่างไรให้แบรนด์ปัง!

BC222

นับวันการสื่อสารการตลาดให้ประสบความสำเร็จยิ่งมีความซับซ้อนมากขึ้น การสร้างแคมเปญการตลาดต้องมีมากกว่าแค่ตัวอักษรหรือรูปภาพ ดังนั้น มัลติมีเดียที่มีองค์ประกอบทั้งภาพและเสียงจึงมักดึงดูดสายตาของกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า และยิ่งน่าตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อคลิปวิดีโอเหล่านั้นเป็นการถ่ายทอดสดที่ผู้ชมมีส่วนร่วมไปพร้อม ๆ กัน

การถ่ายทอดสดผ่านอินเตอร์เน็ตหรือโซเชียลเน็ตเวิร์คไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่ผ่านมามีทั้ง YouTube live หรือแอพพลิเคชั่นถ่ายทอดสดโดยเฉพาะอย่าง Meerkat, Periscope, Bigo แต่ก็ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จนักเพราะมีผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

แต่เมื่อ Facebook Live เปิดตัวก็เกิดเป็นกระแสขึ้นมาแทบจะทันที เหล่าคนดังและแบรนด์ธุรกิจจึงหยิบฟีเจอร์นี้มาทำแคมเปญการตลาดเป็นที่ฮือฮากันหลายแบรนด์

แต่ทำไม Facebook Live จึงได้รับความสนใจมากกว่าการถ่ายทอดสดผ่านเครือข่ายสังคมอื่น ๆ ล่ะ?

  • เมื่อเปรียบด้านปริมาณ ผู้ใช้งาน Facebook  มีจำนวนมากกว่า Youtube รวมถึงมีความถี่ในการเข้าใช้งานแบบที่เรียกได้ว่า Facebook เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน จึงมีโอกาสที่คนจะเห็นการถ่ายทอดสดได้มากกว่า
  • Facebook Live ถ่ายทอดสดได้ง่าย ๆ  เพียงแค่ใช้โทรศัพท์มือถือ และล่าสุดก็สามารถเปิด Live API เพื่อเชื่อมต่อกล้องและระบบถ่ายทำจากภายนอกให้เผยแพร่ภาพผ่าน Facebook Live ได้เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าทำลายข้อจำกัดทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการความง่าย และแบรนด์ธุรกิจที่อยากจะเผยแพร่ภาพคุณภาพสูง ในขณะที่ Youtube Live จะต้องใช้อุปกรณ์ถ่ายทอดสดโดยเฉพาะเท่านั้น หรือแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ไม่สามารถเชื่อมต่อกล้องจากภายนอกได้
  • Facebook มีฟีเจอร์ที่จะเพิ่มโอกาสให้คนเห็นโพสต์หรือการถ่ายทอดสดได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบูธโพสต์ การจ่ายเงินเพื่อโปรโมทโพสต์ หรือเพื่อน ๆ สามารถแชร์ Live ไปยังหน้าไทม์ไลน์ของตัวเองได้ทันที และเมื่อการถ่ายทอดสดจบลงสามารถรับชมย้อนหลังได้ ผู้ถ่ายทอดสดและผู้ชมสามารถตอบโต้กันได้แบบ Real-Time ผ่านการคอมเมนต์และตอบโต้กัน เป็นการสื่อสารสองทาง จึงสร้างความผูกพันกับผู้ชม (Engagement) ได้ดีกว่าวิดีโอธรรมดา
  • ข้อได้เปรียบที่จะทำให้แบรนด์ต่าง ๆ หันมา Live กันมากขึ้น ด้วย Engagement Graphs on Live Video Replays เป็นกราฟวัดความสนใจที่ผู้ชมมีต่อวิดีโอ แสดงสถิติผู้ชมว่าช่วงเวลาไหนของวิดีโอมีคนดูมากน้อยเท่าไร หรือช่วงไหนมีคนกด Like มากที่สุด เป็นประโยชน์ต่อการสร้างคอนเทนต์ต่อ ๆ ไปให้โดนใจมากยิ่งขึ้น

 

ในภาคธุรกิจ Facebook Live คืออีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับทำการตลาดออนไลน์ที่นำมาสร้างคอนเทนต์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดการแสดงสด, เปิดรายการ Q&A ตอบคำถามที่ผู้บริโภคต้องการรู้, เปิดตัวสินค้าหรือบริการ, ทำรายการ How to เรียนรู้วิธีการใช้สินค้าและบริการ, สัมภาษณ์พิเศษ หรือเล่นเกมกับลูกค้า  แบรนด์ที่หยิบยกเอาฟีเจอร์ Facebook Live มาประยุกต์ใช้ได้น่าสนใจสุด ๆ อย่างเช่น Airbnb จับมือกับ Disney ถ่ายทอดสดการสัมภาษณ์คนดังที่มาร่วมงานพรมแดงหน้าบ้านต้นไม้ (Treehouse) ที่ Airbnb สร้างขึ้นตามแบบในภาพยนตร์ The Jungle Book, แบรนด์รถยนต์ Chevrolet ที่เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในงาน CES 2016 ด้วยการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live ให้แฟนตัวจริงได้เห็นก่อนใคร, Dunkin’ Donuts ถ่ายทอดสดการผลิตเค้กแต่งงานที่สูงที่สุดจากห้องครัว แม้แต่พิพิธภัณฑ์ The Metropolitan Museum of Art in New York ก็เคยถ่ายทอดสดนิทรรศการ Pergamon and the Hellenistic Kingdoms of the Ancient World ก่อนการเปิดแสดงจริง 4 วัน

 

ในประเทศไทยเองก็มีตัวอย่าง Live โดน ๆ ของบาร์บีคิวพลาซ่าที่ถ่ายทอดสดกิจกรรม “ศึกเดือดสะท้านเตา ตอน ม้าก้านกล้วย” โดยให้บาร์บีกอนท้าประลองวิ่งแข่งม้าก้านกล้วย โดยมีการชวนให้แฟนเพจเข้ามาร่วมสนุกด้วยการทายผลผู้ชนะว่าจะเป็นใคร พร้อมแจ้งวันและเวลาการท้าประลองเพื่อเรียกให้แฟนเพจเข้ามาติดตามมีส่วนร่วมกับกิจกรรม ถือเป็นการสร้าง Engagement ให้เกิดขึ้นระหว่างสมาชิกในโลกโซเชียลกับแบรนด์ ได้อย่างดี

 

ล่าสุด Facebook เตรียมท้าทายอุตสาหกรรมโทรทัศน์ เปิดให้ถ่ายทอดสดต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมง ในชื่อ Continuous Live Video เพื่อรองรับการถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญ หรือการแข่งขันกีฬาระดับโลก (จากเดิมที่ Facebook Live ถูกกำหนดความยาวไว้ที่ 90 นาที) แต่มีข้อจำกัดคือไม่สามารถถ่ายทอดสดผ่านโทรศัพท์มือถือ และไม่สามารถดูย้อนหลังได้

 

ฟีเจอร์นี้มาพร้อมกับเครื่องมือที่เรียกว่า ‘Geogating’ คือการควบคุมว่าใครมีสิทธิดูรายการสดนี้ได้บ้าง เช่น จำกัดประเทศที่สามารถรับชมได้ ซึ่งเอื้อต่อการขายลิขสิทธิ์รายการให้กับต่างประเทศ หรือเลือกช่วงอายุผู้ชมได้เพื่อคัดเลือกกลุ่มผู้ชมให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่นำเสนอ

 

แม้จะมีเครื่องมือให้ผลิคคอนเทนต์ได้ดีขึ้น แต่ความสะดวกของ Facebook Live นี่เองเป็นดาบสองคมเพราะผู้บริโภคมีสิทธิข้ามวิดีโอของเราไปชมวิดีโออื่นได้ง่าย ๆ เพราะยุคนี้มีคอนเทนต์ออนไลน์ให้เลือกเสพมากมาย นี่จึงเป็นเรื่องที่ Marketer ทั้งหลายต้องคิด และแสวงหาไอเดีย รวมถึงทำการบ้านให้หนักเพื่อสร้างเนื้อหาที่ตรงความต้องการของผู้ชมให้มากที่สุด ยิ่งโดดเด่นมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งปัง! และเป็นกระแสส่งต่อ ๆ กันไปในหมู่คนดูอย่างรวดเร็วมากเท่านั้น

 

mkteventmag
No Comments

Post a Comment