Top

มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2562 (Thailand Research Expo 2019)

มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2562 (Thailand Research Expo 2019)

ชวนชม ช้อป ชิม ชิลล์ งานวิจัย กินได้ ขายได้
สังคมเข้มแข็ง เศรษฐกิจชาติมั่งคั่ง ในมหกรรมงานวิจัย 62

 

“มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2562 (Thailand Research Expo 2019)” จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. ร่วมกับระบบหน่วยงานวิจัยภายในประเทศจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 7 -10 เมษายน 2562 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร งานเดียวที่รวบรวมสุดยอดผลงานวิจัย นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ เพื่อการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และ ประเทศไว้มากที่สุด กว่า 500 ผลงาน ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานวิจัยฝีมือคนไทยที่พร้อมอวด “ออร่า” อย่างเจิดจรัสให้ผู้สนใจได้ชม ช้อป ชิม ชิลล์ ที่ยกทัพมาประชันกันมากที่สุดในงานเดียว โดยจะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 เมษายน นี้ โดย ดร.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2562 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 14 เป็นเวทีระดับชาติที่รวบรวมผลงานวิจัยที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของนักวิจัยไทย ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ และประยุกต์ต่อยอดได้ทันที ซึ่งทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ให้ตรงกับความต้องการของตนเองได้ อันจะเป็นการช่วยสร้างความเข้มแข็งให้ภาคประชาชน สังคม ประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเศรษฐกิจอุตสาหกรรมทั้งในระดับจุลภาคและมหภาคอีกด้วย ไฮไลท์ส่วนหนึ่งที่จะนำมาแสดงในงานนี้มีแนวคิดที่น่าสนใจ ดังนี้


งานวิจัย ลา คอสตูม บ้านปึก บาย มูพา (La Costume Banpuek by MUPA) รังสรรค์โดย อ.สัณห์ไชญ์ เอื้อศิลป์ คณบดีคณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา เล่าถึงงานวิจัยโครงการนี้ว่า ผ้าทอบ้านปึก เป็นสินค้าประจำตำบลของบ้านปึก อ.อ่างศิลา จ.ชลบุรี เป็นผ้าทอที่ได้รับพระราชทานเทคนิคการทอ จากสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ที่มีพระราชประสงค์อยากให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มอย่างยั่งยืน จึงส่งช่างทอผ้าหลวงมาสอนทอผ้าให้กับชาวบ้าน อัตลักษณ์เด่นของผ้าบ้านปึกคือ ลวดลายเฉพาะจำนวน 2 ลาย คือ ลายไส้ปลาไหล กับ ลายนกกระทา ที่มีสีสันสดใส งานวิจัยครั้งนี้จึงตั้งธงที่การพัฒนา 3 เรื่องหลัก คือ พัฒนาสีให้มีความคลาสสิค จากสีสด ปรับมาใช้เพียง 3 สีในเฟสแรก คือ สีขาว สีดำ สีคราม พัฒนาลวดลาย สร้างสรรค์ลวดลายใหม่ให้มีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและผสมสีใหม่ในการนำมาใช้ให้เป็นเอกลักษณ์คือ สีเหลืองและสีเขียวเตาปูน และสุดท้ายคือ พัฒนาผ้าทอที่ชาวบ้านขายเป็นผืน ให้มีดีไซน์ใหม่สำหรับขายเป็นชุดสำเร็จด้วยเทคนิคการตัดเย็บชั้นสูงในแบบ กูตูร์ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผ้าทอ และเพิ่มเรื่องการพัฒนาธุรกิจให้เกิดการต่อยอดแบบยั่งยืน โดยนำเทรนด์ใหม่ด้านการออกแบบจากโลกแฟชั่น เข้ามาพัฒนาคุณค่าของวัฒนธรรมดั้งเดิมให้เติบโตไปด้วยกัน วันนี้ผ้าบ้านปึกภายใต้แบรนด์ ลา คอสตูม บ้านปึก บาย มูพา พร้อมสู่ตลาดและจะเป็นอาชีพที่ชาวบ้านภาคภูมิใจ และสร้างรายได้เพื่อเลี้ยงชีพโดยไม่ต้องรอช่วงเทศกาลอีกต่อไป” และในงานจะนำผลงานมาจัดแสดงแฟชั่นโชว์เต็มรูปแบบบนรันเวย์ภายในงาน ด้วยคอลเลคชั่น Ready to wear และ accessories ครบครัน พร้อมให้เหล่าแฟชั่นนิสต้า ได้ว๊าวรับซัมเมอร์อีกด้วย

นอกจากนี้ การปรุงความงามให้กับผู้หญิง ยังเป็นอีกหนึ่งงานวิจัยที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และต้องบอกว่า ฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว เพราะ “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันวิจัยสมุนไพร พร้อมเปิดโลกความงามให้โลกบิวตี้ได้ตะลึง และวงการสมุนไพรได้สะเทือน กับผลงานที่มีชื่อว่า “เขียงร้อยบาทสู่มะหาดร้อยล้าน: นวัตกรรมเครื่องสำอาง serum all in one ผสมสารสกัดมะหาด” ผลงานของ นายอัศวชัย ช่วยพรหม งานวิจัยนี้ รังสรรค์โดย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ /สถาบันวิจัยสมุนไพร เป็นผู้วิจัยและพัฒนาสารสกัดจากสารสกัดต้นมะหาด สู่เครื่องสำอางบำรุงผิวพรรณ มะหาด เป็นหนึ่งในต้นไม้เนื้อแข็งที่นำไปแปรรูปใช้งานก่อสร้างรูปแบบต่างๆ ราคาต่อต้นนั้นไม่เกินหลักหมื่นบาท วันนี้ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับต้นไม้เพียงต้นเดียวได้ในราคาเรือนแสน ด้วยกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ตามมาตรฐานสากล งานวิจัยนี้พบว่า “แก่นมะหาด” มีสารออกซีเรสเวอราทอล(oxyresveratrol) ที่มีความบริสุทธิ์สูง และได้รับการยอมรับจากนักวิจัยทั่วโลกว่าสารนี้ มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิว ต่อต้านการเกิดริ้วรอยและการเหี่ยวย่น serum all in one จึงเป็นเซรั่มบำรุงผิวต้นตำรับที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพทำให้ผิวเรียบเนียน กระชับผิว เพิ่มความยืดหยุ่น ขาวกระจ่างใส ลดริ้วรอยหางตา และผ่านการทดสอบคุณสมบัติและความปลอดภัยในอาสาสมัครพบว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว มีคุณภาพเทียบเท่าสารสกัดที่มีคุณสมบัติเดียวกันที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้คนรักความสวยงามได้มีเครื่องสำอางจากสมุนไพรไทยที่คิดค้นโดยอย่างมีมาตรฐานสากลโดยนักวิจัยไทยในราคาไม่แพง และงานวิจัยชิ้นนี้จะนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์เร็วๆนี้ ถือได้ว่า เป็นอีกงานวิจัยที่ลงจากหิ้งสู่โลกธุรกิจได้อย่างแท้จริง

อีกหนึ่งปัญหางานวิจัยที่ไม่เคยพลาด คือ การคิดค้นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ครั้งนี้ถือเป็นการคิดค้นชั้นยอดอีกหนึ่งผลงานวิจัยที่มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศ ได้แก่ บียอนด์ก๊อซ (Beyond Gauze) : นวัตกรรมวัสดุตกแต่งบาดแผล ที่มีความสามารถดูดซับสูงและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียสำหรับประยุกต์ใช้ทางการแพทย์ ที่มีความสามารถในการดูดซับสารคัดหลั่ง เช่น เลือด หรือน้ำหนอง ได้ดีกว่าผ้าก๊อซที่มีขายทั่วไปในท้องตลาดถึง 50 เท่า และยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียได้กว่า 3 ล้านเซลล์ ใช้ได้กับบาดแผลทุกชนิด เช่น แผลตัด แผลทะลุ แผลกดทับ และแผลเนื้อเน่า และผลิตด้วยเทคโนโลยีการผลิตสีเขียว (green technology) จึงทำให้ บียอนด์ก๊อซ (Beyond Gauze) มีคุณภาพดีปลอดภัยและมีราคาถูก เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานและบุคลากรทางการแพทย์ เป็นผลงานของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
นอกจากนี้ยังมีผลงานที่โดดเด่นพร้อมเปล่ง “ออร่า” อย่างเจิดจรัสให้นักวิจัยได้นำผลงานมาประชันกันแบบไม่ออมฝีมืออีกมากมาย อาทิ การพัฒนานวัตกรรมตำรับอาหารวังสวนสุนันทาเชิงโภชนาการสู่ตลาดโลก จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา การพัฒนาเครื่องประดับเซรามิค จาก มศว ผลิตภัณฑ์การะเป๋าผ้าทอลายดอกปีป จ.พิษณุโลก จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม การแปรรูปข้าวฮางงอกอินทรีย์คุณภาพสูง จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับโรงเรือนปลูกผักด้วยน้ำ จาก สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย บรรจุภัณฑ์จากแกลบ จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ฯลฯ
ดร.วิภารัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ภายในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2562 ไม่ได้มีแต่นิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังมีเวทีสัมมนาและเสวนาที่น่าสนใจอีกกว่า 100 หัวข้อ การประกวดผลงานนวัตกรรมระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา การมอบรางวัลนักวิจัย กิจกรรม Research Clinic เป็นการให้คำปรึกษาในเรื่องของการวิจัย และการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากภาคเอกชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเป็นพื้นที่เพื่อการแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโครงการในพระราชดำริ ผลงานวิจัย และภูมิปัญญาท้องถิ่น และอื่นๆ อีกมากมาย

                                 

 

ซัมเมอร์นี้ คนไทยต้องเคลียร์คิวให้ว่างแล้วไปชม ช้อป ชิม ชิลล์ ผลงานวิจัยและนวัตกรรมฝีมือคนไทยกว่า 500 ผลงาน ที่พร้อมอวด “ออร่า” อย่างยิ่งใหญ่ตลอด 4 วันเต็มแบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 7 – 10 เมษายน 2562 เวลา 09.00 – 18.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ดูรายละเอียดงานวิจัยและหัวข้อสัมมนา และลงทะเบียนร่วมงานล่วงหน้าได้ที่ https://researchexpo.nrct.go.th

 

Mktevent
No Comments

Post a Comment