Top

วิ่งเปลี่ยนชีวิต

วิ่งเปลี่ยนชีวิต

อยากเปลี่ยนตัวเองให้ออกกำลังกาย แต่ถ้าหากอยากเปลี่ยนชีวิตให้ออกมาวิ่ง (มาราธอน)

 

2-3 ปีที่ผ่านมา มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคมคนกรุงเทพและคนต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ ๆ คือ ทุกเช้ามืดของวันเสาร์และวันอาทิตย์ ใครที่มีธุระตอนเช้า ๆ และขับรถออกจากบ้าน คงจะเริ่มเห็นงานวิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย และมีนักวิ่งหรือกลุ่มคนที่รักการออกกำลังกายเข้ากลุ่มและทำกิจกรรมอย่างนี้มากขึ้น ดูไปแล้วก็ทำท่าจะขยายวงกว้างมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เสียด้วย

 

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากสภาวะการเปลี่ยนแปลง วิถีการใช้ชีวิตที่รวดเร็วมากขึ้นและการเรียนรู้จากสื่อหรือจากสิ่งต่าง ๆ ทำให้เกิด Life Health ขึ้นมากมาย โดยส่วนตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้คนที่หลงใหลการออกกำลังกาย และกีฬาที่ผมเลือกเล่นก็คือ กีฬาวิ่ง นี่เอง

 

การวิ่งนั้นไม่ต่างจากการทำงาน อ่านไม่ผิดหรอกครับ ที่ผมว่ามันไม่ต่างกันนั้นมันเป็นอย่างไรลองมาดูกันครับ

 

เริ่มวิ่ง = เริ่มงาน

ตอนเราเริ่มคิดที่จะวิ่ง ใจเราตอนนั้นก็คิดแค่ว่ามีรองเท้าวิ่งสักคู่หนึ่ง ใส่มันแล้วออกไปวิ่งแล้วก็จบใช่ไหมครับ แต่สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ทำมันช่างแตกต่างกัน เพราะเราจะวิ่งได้เร็วสุดแค่ช่วง 100 – 200 เมตร แรกเท่านั้น พอหลังจากนั้นเราจะเริ่มหอบและเหนื่อยแล้วก็เริ่มเดิน เดิน เดิน และก็เดิน ชีวิตการทำงานของเราก็เช่นกัน ตอนเริ่มแรกเราก็อยากที่จะทำงานให้ได้ผลงานดี เต็มแรง ผลที่ได้คือ ตอนแรกค่างานเราจะดี แต่จะดีแค่ช่วงแรก เพราะเรายังไม่ได้เริ่มเรียนรู้งานจริง ๆ ว่าเราจะต้องทำอะไรบ้าง พูดง่าย ๆ ว่าทิศทางไม่มีแต่ใส่พลังเข้าไปเต็มที่

 

วิ่งจนเจ็บ = ทำงานแล้วผิดพลาด

คนที่วิ่งใหม่ ๆ สิ่งแรกที่เจอกันเกือบทุกคนคือ การวิ่งแล้วมีอาการเจ็บ หลังการวิ่งจะเกิดอาการเจ็บเข่า เจ็บเท้า ต้นขา น่อง และอื่น ๆ อีกสารพัด จึงมีหลายคนที่ถอดใจไปในช่วงนี้ นั่นเป็นเพราะเรายังไม่ได้เรียนรู้วิธีการวิ่งที่ถูกต้อง การใช้เวลาใช้ความอดทนในการสร้างวินัยและความทนทานในการวิ่งก็ไม่ต่างจากการทำงาน เหมือนการทำงานที่เราอาจจะทำอะไรผิดพลาดบ้าง แต่มันคือการเรียนรู้ ไม่มีใครทำอะไรถูกต้องได้ตลอดเวลา ถ้ามีก็แสดงว่าคน ๆ นั้นไม่เคยทำอะไรเลย

 

เริ่มฝึกฝน = ลงมือทำงานนั้นจนเชี่ยวชาญ

เมื่อร่างกายเราเจ็บ เราจะเริ่มเรียนรู้และหาวิธีการป้องกันไม่ให้มันเจ็บ เราจะเริ่มฝึกซ้อม ปรับวิธีการ จัดท่าทางต่าง ๆ ไปเรื่อย จนเข้าที่เข้าทาง เกิดนิสัยที่ดีที่เราเรียกว่า “วินัย” ซึ่งถ้าเรามาถึงจุดนี้ได้ เราจะเริ่มวิ่งได้ดีขึ้นดีขึ้น เช่นเดียวกันกับการทำงาน การเรียนรู้ที่ดีเกิดจากการฝึกฝนจนชำนาญ

 

วิ่งกับใจตัวเอง = พิสูจน์ความสามารถในงานของเรา

พอถึงตอนนี้เราคงไม่อยากวิ่งแค่ 100 – 200 เมตร แล้วล่ะครับ เป้าหมายเราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ค่อยฝึกฝนทีละนิด จาก 5 กิโลเมตร จะเป็น 10 กิโลเมตร และเป็น 21 กิโลเมตร จนวันหนึ่งคุณจะลืมไปว่า คุณกำลังวิ่งมาราธอนอยู่ 42.125 กิโลเมตร

 

ในชีวิตการทำงาน เมื่อเราเดินทางมาถึงจุดที่อยากพัฒนาความสามารถในการทำงานอยู่เรื่อย ๆ ก็ไม่มีอะไรมาหยุดความคิดในการพัฒนาตัวเองของเราแล้วล่ะครับ แม้เพื่อนที่คุณเคยใกล้ชิดสนิทกันอย่าง “นายข้ออ้าง” ก็คงไม่สามารถทัดทานหรือหยุดยั้งคุณได้อีกต่อไป และในที่สุดคุณจะพบว่าคุณได้สร้างชีวิตใหม่ขึ้นมาแล้วโดยที่คุณไม่รู้ตัว…

 

มาถึงตรงนี้รู้สึกอยากวิ่งขึ้นมาบ้างหรือไม่ครับ…ถ้าเจอผมวิ่งอยู่ที่ไหนแวะเข้ามาทักทายกันบ้างนะครับ

 

mkteventmag
No Comments

Post a Comment